เอกสารหลุด อิสราเอลเสนอแผนผลักดันชาวกาซา 2.3 ล้านคนไปอียิปต์
เมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) มีเอกสารของกระทรวงการข่าวกรองอิสราเอลรั่วไหลออกมา ซึ่งมีเนื้อหาระบุถึงสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นข้อเสนอแผนการจัดการชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา โดยเสนอให้มีการผลักดันชาวกาซากว่า 2.3 ล้านคนไปยังคาบสมุทรซีนาย (Sinai) ของประเทศอียิปต์แทน
เอกสารดังกล่าวลงวันที่ 13 ต.ค. เผยแพร่ครั้งแรกโดย Sicha Mekomit เว็บไซต์ข่าวท้องถิ่น โดยแนวคิดเรื่องการผลักดันประชากรออกมากาซานี้ เกิดขึ้นเนื่องจากอิสราเอลเกรงว่า การใช้กำลังในฉนวนกาซาอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“เศรษฐา” จ่อให้ 5 หมื่นบาท คนไทยกลับจากอิสราเอล หวังดึงแรงงานกลับ
อิสราเอลเผย ช่วยตัวประกันออกมาจากฉนวนกาซาได้ 1 คน เป็นทหารหญิง
แรงงานไทยเปลี่ยนใจยอมกลับบ้าน หลังต้องเสี่ยงชีวิตท่ามกลางเสียงระเบิด!
เอกสารระบุว่า “หากประชากรยังคงอยู่ในฉนวนกาซา ก็จะมีชาวอาหรับเสียชีวิตจำนวนมากในระหว่างการยึดครองฉนวนกาซา และสิ่งนี้จะทำลายภาพลักษณ์ระหว่างประเทศของอิสราเอลมากกว่าการเนรเทศประชากรออกไป ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ คำแนะนำของกระทรวงข่าวกรองคือ การส่งเสริมการย้ายพลเมืองทั้งหมดจากฉนวนกาซาไปยังซีนายอย่างถาวร”
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า อียิปต์และสหรัฐอเมริกาได้หารือกันถึงวิธีที่จะป้องกันไม่ให้ประชากรปาเลสไตน์ถูกบังคับให้ออกจากฉนวนกาซา โดยผู้นำสหรัฐฯ และอียิปต์หารือกันถึงความสำคัญของการปกป้องชีวิตพลเรือน การเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และการรับรองว่าชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาจะไม่ถูกย้ายไปอียิปต์หรือประเทศอื่นใด”
สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ปฏิเสธรายงานดังกล่าว โดยบอกว่า เอกสารข้างต้นเป็นเพียง “แนวคิด” เท่านั้น และไม่ได้ถูกหยิบยกมาพิจารณาเป็นจริงเป็นจังแต่อย่างใด
แม้ทางการอิสราเอลจะออกมาบอกว่า แผนการผลักดันชาวกาซาจะเป็นเพียงแนวคิดที่ไม่มีใครสนใจ แต่ก็ทำให้ชาวปาเลสไตน์และอียิปต์เกิดความหวาดกลัวและไม่สบายใจอยู่ดี
ที่ผ่านมา ชาวอียิปต์หวาดกลัวมานานแล้วว่า อิสราเอลต้องการทำให้ฉนวนกาซากลายเป็นปัญหาของอียิปต์ ขณะที่สำหรับชาวปาเลสไตน์เอง การถูกขับออกจากกาซาเป็นเหมือนการฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับความบอบช้ำทางจิตใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา นั่นคือการถูกถอนรากถอนโคนและขับไล่ออกจากดินแดนปาเลสไตน์ในช่วงที่อิสราเอลก่อตั้งรัฐยิวขึ้นมาในปี 1948
นาบิล อาบู รูเดเนห์ โฆษกของ มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ กล่าวว่า “เราไม่เห็นด้วยกับการย้ายประชากรไปยังสถานที่ใด ๆ ในรูปแบบใด ๆ และเราถือว่านี่เป็นเส้นที่เราจะไม่อนุญาตให้ข้าม สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1948 จะไม่ได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้นอีก”
อาบู รูเดเนห์ กล่าวว่า หากมีการขับไล่ครั้งใหญ่ จะเทียบเท่ากับ “การประกาศสงครามครั้งใหม่”
เอกสารดังกล่าวเสนอให้ย้ายประชากรพลเรือนของกาซาไปยังตอนเหนือของไซนาย จากนั้นจึงสร้างเมืองถาวรและเส้นทางมนุษยธรรม จะมีการจัดตั้งเขตรักษาความปลอดภัยภายในอิสราเอล เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวปาเลสไตน์กลับเข้ามาอีก
ทั้งนี้ แต่รายงานไม่ได้ระบุว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับฉนวนกาซาเมื่อประชากรปาเลสไตน์ถูกขับออกไป
กระทรวงการต่างประเทศของอียิปต์ยังไม่ได้ออกมาแสดงท่าทีในเรื่องนี้ แต่ที่ผ่านมา อียิปต์ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้องการรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์จำนวนมากเข้าประเทศ
อียิปต์กลัวมานานแล้วว่า อิสราเอลจะบังคับให้ชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนของตนอย่างถาวร เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงสงครามสร้างรัฐอิสราเอล
ประธานาธิบดีอียิปต์ อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี กล่าวว่า หากมีการหลั่งไหลของผู้ลี้ภัยจำนวนมากจากฉนวนกาซา มีความเสี่ยงที่จะนำกลุ่มติดอาวุธเข้าไปในซีนาย ซึ่งพวกเขาอาจเปิดฉากโจมตีอิสราเอล และนั่นจะเป็นอันตรายต่อสนธิสัญญาสันติภาพของประเทศต่าง ๆ ในปี 1979
อัล-ซิซีเสนอให้อิสราเอลให้ชาวปาเลสไตน์ไปอยู่ในทะเลทรายเนเกฟซึ่งอยู่ติดกับฉนวนกาซาแทน จนกว่าอิสราเอลจะยุติปฏิบัติการทางทหาร
ด้าน โยเอล กูซันสกี จากสถาบันการศึกษาความมั่นคงแห่งชาติในเทลอาวีฟ กล่าวว่า รายงานข้อเสนอดังกล่าว หากถูกนำมาปฏิบัติจริง จะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับอีญิปต์ซึ่งเป็นพันธมิตรคนสำคัญ
“หากบทความนี้เป็นจริง นี่จะเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรง มันอาจก่อให้เกิดความแตกแยกทางยุทธศาสตร์ระหว่างอิสราเอลและอียิปต์ ผมว่ามันเป็นความโง่เขลาและส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและอียิปต์” กูซันสกีกล่าว
กระนั้น ไม่ได้มีเพียงอียิปต์เท่านั้นที่ถูกมองว่าสามารถรองรับชาวกาซาได้ เอกสารยังกล่าวถึง ตุรกี กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่อาจสนับสนุนแผนดังกล่าวทั้งทางการเงิน หรือโดยการรับชาวกาซาไว้เป็นผู้ลี้ภัย และในระยะยาวในฐานะพลเมือง รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการอพยพย้ายถิ่นฐานแบบผ่อนปรนของแคนาดา ก็ทำให้แคนาดากลายเป็นอีกตัวเลือกในการตั้งถิ่นฐานใหม่ของชาวกาซาด้วย
จริง ๆ ในเอกสารนี้ยังมีการเสนอทางเลือกอีก 2 ทาง ซึ่งมองว่าไม่อาจยอมรับหรือปฏิบัติได้ คือ การคืนสถานะปาเลสไตน์ให้มีอำนาจอธิปไตยในฉนวนกาซา และการสนับสนุนระบอบการปกครองท้องถิ่น
เอกสารระบุว่า “การคืนอำนาจให้ปาเลสไตน์ จะเป็นชัยชนะที่ไม่เคยมีมาก่อนของขบวนการแห่งชาติปาเลสไตน์ เป็นชัยชนะที่จะคร่าชีวิตพลเรือนและทหารอิสราเอลหลายพันคน และไม่ปกป้องความมั่นคงของอิสราเอล”
เรียบเรียงจาก Associated Press
ภาพจาก MAHMUD HAMS / AFP
ตารางเชียร์ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” ชิงมงกุฎ Miss Universe 2023 ลุ้น! รอบตัดสิน (Final) เช้า 19 พ.ย.นี้
เปิดปฏิทิน “เงินสงเคราะห์บุตร 2566” เช็กเลยเข้าบัญชีวันไหนบ้าง
"เมสซี่"คนเดียวจ่อทุบสถิติชาติคว้ารางวัลบัลลงดอร์มากที่สุด